นักเทววิทยามิชชั่นตั้งคำถามเกี่ยวกับพระคัมภีร์ฉบับใหม่

นักเทววิทยามิชชั่นตั้งคำถามเกี่ยวกับพระคัมภีร์ฉบับใหม่

นักศาสนศาสตร์นิกายเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีสในเยอรมนีกังวลว่าพระคัมภีร์ไบเบิลฉบับล่าสุดที่เผยแพร่ในประเทศของพวกเขาจะเสียสละความถูกต้องตามพระคัมภีร์บนแท่นแห่งความถูกต้องทางการเมือง

สะท้อนถึงห้าปีของการศึกษาและความคิดเห็นของบุคคลเกือบ 50 คนจากภูมิหลังที่หลากหลาย พระคัมภีร์ไบเบิลฉบับใหม่ที่ระบุว่า “ให้ความยุติธรรมกับผู้หญิง ชาวยิว และกลุ่มคนชายขอบ” ขายหมดทันทีที่วางจำหน่ายในเยอรมนี ตามรายงานของ Ecumenical News International .

ด้วยการลดทอนความรุนแรงในพันธสัญญาเดิมและการอ้างอิงถึง

สาวกหญิง อัครสาวก และพวกฟาริสี ท่ามกลางการแก้ไขอื่นๆ ฉบับดังกล่าวได้จุดประกายให้เกิดกระแสมากมาย ไม่ต้องพูดถึงการโต้เถียง “เจตนาของการแปลภาษาเยอรมันใหม่…คือการนำเสนอพระคัมภีร์ในรูปแบบgerechter spracheหรือ ‘เพียงภาษาเดียว’” Udo Worschech นักศาสนศาสตร์นิกายมิชชั่นวันที่ 7 แห่งมหาวิทยาลัย Friedensau Adventist ใน Friedensau ประเทศเยอรมนีกล่าว “[ผู้แปล] พยายามที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่และเป็นวิทยาศาสตร์” Siegfried Wittwer ศิษยาภิบาลมิชชั่นชาวเยอรมันกล่าว “[ยึดมั่น] กับข้อความภาษาฮีบรูและกรีก [แต่] ใช้ภาษาที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน พวกเขาต้องการความเป็นธรรมทางเพศและหลีกเลี่ยงการแสดงออกต่อต้านกลุ่มเซมิติก”

ผู้หญิงไม่ได้ถูกกล่าวถึงแต่เป็นการพูดถึงเป็นการส่วนตัว ดังตัวอย่างหนึ่ง Wittwer อ้างถึงตัวอย่างในพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่หลายตัวอย่าง โดยที่วลี “ลูกสาวของฉัน” แทนที่คำว่า “ลูกชายของฉัน” แบบดั้งเดิม และการที่คำว่า “แม่” รวมเข้ากับการกล่าวถึง “พ่อ” โดยทั่วไป นอกจากนี้ Wittwer ตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อพูดถึงพระเจ้า การแปลมักจะใช้สำนวนที่ว่า “ผู้ทรงพระชนม์ นิรันดร์ ศักดิ์สิทธิ์” คุณลักษณะแต่ละอย่างเป็นกลางทางเพศในภาษาเยอรมัน และ—มาพร้อมกับบทความเกี่ยวกับผู้หญิง—ตั้งใจที่จะระงับแนวคิดปิตาธิปไตยเกี่ยวกับพระเจ้า เขาอธิบาย “คำอธิษฐานของพระเจ้า” ที่คุ้นเคยเริ่มขึ้นแล้ว “บิดามารดาของเราผู้สถิตในสวรรค์” แฟรงก์ เอ็ม. ฮาเซล คณบดีของวิทยาลัยศาสนศาสตร์ที่ดำเนินการโดยมิชชั่นที่โบเกนโฮเฟนกล่าว

แม้จะมีความพยายามในการแปลเพื่อเพิ่มความเกี่ยวข้องของพระคัมภีร์

 แต่ทั้ง Wittwer และ Worschech ก็ยังไม่เชื่อในความน่าเชื่อถือ Worschech ตั้งคำถามถึงชื่อของมันด้วยซ้ำ “คำว่าgerecht ในภาษาเยอรมัน มีความหมายว่า “ชอบธรรม[ness] ในภาษาเยอรมัน ชื่อนี้ทำให้เข้าใจผิดอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นการระลึกถึงแนวคิดเรื่องความสมบูรณ์และสิ้นสุด” เขาอธิบาย

Holger Teubert ผู้อำนวยการและบรรณาธิการของ Adventist Press Service ของเยอรมนีเห็นด้วย “ชื่อคัมภีร์ไบเบิลฉบับใหม่เป็นการยั่วยุและโต้แย้ง คำถามของฉันคือ: พระคัมภีร์ฉบับนี้เป็นฉบับเดียวที่แปลเป็นภาษากลางหรือไม่? การแปลอื่น ๆ ทั้งหมด [เขียน] เป็นภาษาที่ไม่ยุติธรรมหรือไม่? ชื่อประณามการแปลพระคัมภีร์อื่น ๆ ทั้งหมด”

ในกรณีที่เวอร์ชันดังกล่าวอ้างว่ามีความแน่นอน ภาษาของเวอร์ชันนั้นค่อนข้างจะเพ้อเจ้ออย่างน่ารำคาญ Hasel กล่าว เขาอ้างถึงการปฏิบัติต่อคำเทศนาบนภูเขาของพระเยซูซึ่งบันทึกไว้ในหนังสือมัทธิว “เราอ่านเจอว่าพระเยซูไม่ได้ตรัสตามสิทธิอำนาจของพระองค์อีกต่อไป โดยกล่าวว่า ‘แต่เราบอกท่านว่า…’ แทน พระองค์ตรัสว่า: ‘วันนี้ข้าพเจ้าตีความสิ่งนี้ว่าหมายถึง…’ ข้อความที่ชัดเจนกลายเป็นคำแนะนำที่ไม่จำเป็นและเป็นการชั่วคราว” เขา อธิบาย 

“[การแปล] ควรจะอภิปรายเพิ่มเติม สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านเริ่มใคร่ครวญเกี่ยวกับปัญหาในปัจจุบัน เช่น การสนทนาเกี่ยวกับผู้หญิงในสังคม เพื่อนบ้านที่ไม่ใช่คริสเตียน ผู้ไม่เชื่อในพระเจ้า ปัญหาของสังคมปิตาธิปไตย และคำถามอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สู่สังคมสมัยใหม่” Worschech กล่าว

ความครอบคลุมทางเพศเป็นหัวข้อหลักของการแปล นักวิชาการที่มีส่วนร่วมส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แทนที่จะแก้ไขพระคัมภีร์อย่างมากเพื่อรองรับความเท่าเทียมกันทางสังคม Worschech แนะนำว่า Adventists ควรไตร่ตรองถึงบทบาทของสตรีที่แท้จริงในคริสตจักร “แม้กระทั่งทุกวันนี้” เขากล่าว “เทววิทยาสตรีนิยมสามารถ [ได้ประโยชน์จาก] การนำเสนอเชิงวิชาการเกี่ยวกับงานของเอลเลน จี. ไวท์”

White ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการก่อตั้งคริสตจักร Adventist เขียนอย่างมากมายและได้รับการพิสูจน์ว่ามีอิทธิพลอย่างมากแม้ท่ามกลางสิ่งที่ Worschech เรียกว่าสังคมปิตาธิปไตยของอเมริกาเหนือในช่วงปลายทศวรรษ 1800

ซิลเวีย เรนซ์ นักเขียนมิชชั่นที่ทำงานให้กับโรงเรียนพระคัมภีร์ไบเบิลที่ Adventist Media Center ของเยอรมนี พบว่า “การเน้นโดยประดิษฐ์” ต่อสตรีเป็นอุปสรรคต่อการอุปถัมภ์ “ฉันไม่คิดว่ามันจำเป็นหรือมีประโยชน์ที่จะเปลี่ยนคำที่เกี่ยวข้องกับเพศ [เป็น] รูปผู้หญิงทั้งหมด สิ่งนี้จะไม่ทำให้โลกของเรายุติธรรมและยุติธรรมมากขึ้นเลยสักนิด”

“และ” เธอกล่าวเสริม “ฉันไม่คิดว่ามนุษย์มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนพระวจนะของพระเจ้าและใส่ความหมายอื่นลงไปในคำในขณะที่กำลังแปล” Marit Krejcek ซึ่งทำงานให้กับ Adventist Media Center กล่าวว่าเธอได้รับคำแนะนำจากการปฏิบัติต่อผู้หญิงของพระเยซูในขณะที่พระองค์อยู่บนโลก “ฉันไม่ต้องการคัมภีร์ไบเบิลฉบับนั้น เพราะฉันรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของผู้หญิง” เธอกล่าว 

ฮาเซลเห็นด้วย “ในฐานะ Adventists เราไม่รู้สึกอิสระที่จะ ‘แก้ไข’ พระวจนะที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่ได้รับการเปิดเผยและได้รับการดลใจจากพระเจ้าตามความปรารถนาดีของเรา มีอันตรายในการดัดแปลงข้อความในพระคัมภีร์ไบเบิล แทนที่จะแก้ไขภาษาในพระคัมภีร์และความหมายของคำพยานในพระคัมภีร์ด้วย เราต้องสารภาพคำพยานนี้ในภาษาที่มอบให้เราในพระคัมภีร์” เขาเสริมว่าการแปลใด ๆ ที่ “ยุ่งกับข้อความในพระคัมภีร์ไบเบิลไม่สามารถแนะนำสำหรับการศึกษาพระคัมภีร์ส่วนตัวอย่างจริงจังหรือเพื่อใช้ในการบริการคริสตจักรขององค์กร”

ความกังวลของ Worschech มีมากกว่าการปฏิบัติต่อภาษาต้นฉบับของการแปล เขาสงสัยว่าพระคัมภีร์เป็นบริบทที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาสังคมหรือไม่ ไม่ต้องพูดถึง “เวลาและเงิน” ที่ใช้ในการค้นคว้าและเผยแพร่ “นักศาสนศาสตร์จัดการกับคำถามและปัญหาเหล่านี้มาหลายทศวรรษแล้ว มีเนื้อหาที่ตีพิมพ์มากมายโดยพิจารณาจากทุกแง่มุมที่การแปลใหม่ต้องการดึงความสนใจ”

ทูเบิร์ตกล่าวว่างานแปลได้รับทุนสนับสนุนทั้งหมดจากการบริจาคจากโบสถ์ต่างๆ และสมาคมสตรีทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เขาแนะนำให้แอดเวนติสต์ศึกษา “พระคัมภีร์ฉบับที่เชื่อถือได้มากขึ้น” ซึ่งสอดคล้องกับภาษาต้นฉบับของพระคัมภีร์มากขึ้น

“พระคัมภีร์ที่อ้างว่าเป็นฉบับแปลต้องแปลจากต้นฉบับภาษาฮีบรูและกรีกจริงๆ ถ้าไม่ใช่ นั่นไม่ใช่การแปล [แต่] เป็นแอปพลิเคชัน…ที่สะท้อนถึงบรรยากาศของความถูกต้องทางการเมืองและความไม่เท่าเทียมทางเพศในปัจจุบัน” ทูเบิร์ตอธิบาย

ในส่วนของเขา แม้ว่าเขาจะไม่รับรองการแปล แต่ Worschech ระบุว่า “ถ้า [มัน] ทำให้ศิษยาภิบาลตระหนักว่างานของพวกเขาคือการเป็นครูของคริสตจักรด้วย นำเสนอและอภิปรายประเด็น ‘ความจริงในปัจจุบัน’ [จากนั้น] การแปลอาจยอมรับได้”

สล็อตโรม่าเว็บตรง / สล็อตแท้ / สล็อตเว็บตรง