โจ ไบเดน และ วลาดิเมียร์ ปูติน สองผู้นำจากประเทศมหาอำนาจของโลกได้เข้าหารือประชุมสุดยอดผู้นำ เชื่อมีโอกาสฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน สำนักข่าว BBC ได้รายงานว่า นาย วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และ นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เข้าหารือในประเด็นต่างๆ ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นระยะเวลานานกว่าสามชั่วโมง
โดยนาย ปูติน ได้ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์
พร้อมระบุว่าทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเดินหน้าให้ตัวแทนของทั้งสองฝั่งร่วมหารือเพื่อเยียวยาความสัมพันธ์ระหว่างของทั้งสองประเทศต่อไป ขณะที่นาย ไบเดน กล่าวถึงการหารือครั้งนี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า เป็นประชุมที่ดี โดยผู้นำสหรัฐฯกล่าวว่าเขาและปูตินมองถึงความเป็นไปได้ที่จะทำงานร่วมกันในพื้นที่ที่เคยเป็นข้อพิพาท เช่น อิหร่าน, อาร์คติก และ ซิเรีย เป็นต้น
ทั้งนี้ผู้นำรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธเรื่องการโจมตีทางไซเบอร์ ขณะที่นายไบเดนได้กล่าวเตือนว่า ห้ามมีการโจมตีทางไซเบอร์กับสาธารณูปโภคที่สำคัญ เช่น น้ำ พลังงาน
นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นขัดแย้งกันถึงเรื่องสิทธิมนุษยและสิทธิ์ในการออกมาประท้วง เช่นกรณีของ นายอเล็กเซ นาวัลนี ที่ผู้นำรัสเซียระบุว่าผู้ประท้วงรายนี้ไม่สนใจกฎหมาย และปฏิเสธข้อกล่าวว่า รัฐเกี่ยวข้องกับการวางยาพิษอริทางการเมืองของปูติน
โดยนายปูตินยังได้ออกมาแสดงความเห็นว่าเขาไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายเมื่อครั้งที่ประชาชนชาวสหรัฐฯบุกทำเนีย หรือเหตุวุ่นวายที่เป็นผลพวงจากการชุมนุม Black Lives Matter เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมให้กับประชาชนผิวดำ
อย่างไรก็ดี นาย ไบเดน ได้ออกมาตอบโต้ความเห็นของนาย ปูติน ว่าเป็นเรื่องเหลวไหล และสิทธิมนุษยนต้องเป็นเรื่องที่พูดถึงอยู่ตลอดเวลา
โดยการประชุมสุดยอดระหว่างครั้งนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2561 ที่นครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์
คิมจองอึน หารือ เกาหลีเหนืออาหารขาดแคลน ซึ่งเป็นอิทธิพลจากไต้ฝุ่นและน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงที่ผ่านมา ย้ำให้เจ้าหน้าที่เร่งหาวิธีแก้ปัญหา เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า นาย คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้แสดงความกังวลถึงสภาวะอาหารขาดแคลน หลังจากที่ประเทศเกาหลีเหนือต้องเผชิญกับไต้ฝุ่นและน้ำท่วมรุนแรงเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งในที่ประชุมนายคิมระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งหาวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ประเทศเกาหลีเหนืออ้างว่าประเทศเกาหลีเหนือทางการเกาหลีเหนือไม่พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ในช่วงสิ้นปี 2562 โดยสื่อเกาหลีเหนือระบุว่าทางการได้ปิดชายแดนและเส้นทางการค้าขายกับทั้งรัสเซียและจีน ทำให้ไม่เกิดการแพร่ระบาดขึ้น
อย่างไรก็ตามมาตรการการประกาศมาตรการดังกล่าวส่งผลให้การค้าขายระหว่างจีนและเกาหลีเหนือลดลงเป็นอย่างมาก โดยสำนักข่าว นิเคอิ ระบุว่าการแลกเปลี่ยนระหว่างทั้งสองชาติลดลงกว่าร้อยละ 80 และส่งผลกระทบให้ประชาชนเกาหลีเหนือไม่สามารถเข้าถึงเครื่องใช้จำเป็นและอาหารได้
นอกจากนี้ประเทศเกาหลีเหนือยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากนานาชาติ หลังจากที่โสมแดงถูกคว่ำบาตร เนื่องจากการพัฒนาและการทดสอบขีปนาวุธที่เกิดขึ้นในประเทศ
อิสราเอล ยิงขีปนาวุธ ถล่มฉนวนกาซา อีกครั้ง
ทั่วโลกต้องกลับมาจับตาอีกครั้ง หลัง อิสราเอล ยิงขีปนาวุธ โต้ตอบกองกำลัง ฮามาส ถือเป็นความรุนแรงครั้งแรก หลังจากที่สองฝ่ายประกาศหยุดยิง เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า กองทัพอิสราเอล ได้ออกแถลงว่าเครื่องบินรบของกองทัพได้ทำการจู่โจมทางกาศฐานทัพของกองทัพฮามาส โดยระบุว่าพวกเขาได้รับรายงานถึงพฤติกรรมก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในสถานที่ดังกล่าว
ซึ่งทางกองทัพอิสราเอลยืนยันว่าพวกเขาเตรียมพร้อมจะรับมือกับทุกสถานการณ์รวมถึงกลับมาใช้ความรุนแรงอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิง เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ยังไม่มีการยืนยันว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการจู่โจมทางอากาศครั้งนี้หรือไม่
โดยการจู่โจมครั้งนี้เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่มีบอลลูนไฟลอยจากฉนวนกาซาเข้ามาในประเทศอิสราเอล จนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้กว่า 20 จุดในทางใต้ของประเทศอิสราเอล ย้อนกลับไปในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อิสราเอล และ กองทัพฮามาส ได้มีการปะทะกันต่อเนื่องนาน 11 วัน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 ศพ โดยทางการปาเลสไตน์ระบุว่ามีประชาชนอย่างน้อย 243 ศพ เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงครั้งนี้ ในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็กและสตรี 100 ศพ
ผู้อำนวยการฝ่ายสารนิเทศ ของ ไต้หวัน เร่งชี้แจงหลังจากที่ ปธน.ไต้หวัน เปิดเผยว่าสาเหตุที่ วัคซีนจัดส่งล่าช้า เพราะไทยกั๊กใช้เอง
นายฌอน เฉิน ผู้อำนวยการฝ่ายสารนิเทศ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย ได้ออกมาร่อนเอกสารชี้แจง จากกรณีที่ นาง ไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันออกมาให้สัมภาษณ์ว่าสาเหตุที่วัคซีนแอสตราเซเนกาถูกจัดส่งช้าในไต้หวัน เนื่องจากประเทศไทยผลิตวัคซีนไว้ใช้เอง
โดยในเอกสารระบุว่า “เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่ ได้แสดงความคิดเห็นขณะให้สื่อของไต้หวันสัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่วัคซีน AstraZeneca ไม่สามารถผลิตได้ตามจำนวนที่ต้องการนั้น เนื่องจากความสามารถการผลิตวัคซีนทั่วโลกไม่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกประเทศได้
เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง